การบริหารความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex กลยุทธ์การบริหารจัดการทุนที่มีประสิทธิภาพเป็นคุณลักษณะที่สำคัญของตลาดการเงิน โดยไม่ต้องมีคุณภาพสูงการจัดการเงินที่เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในตลาดของการซื้อขายแลกเปลี่ยน สำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จผู้เล่นจะต้องสามารถระบุความเสี่ยงในแต่ละรายการ นี้จะไม่เพียง แต่ประหยัดเงิน แต่ยังคูณ กฎของการจัดการเงินรวมถึงหลักการต่อไปนี้: 1. การลงทุนไม่เกินครึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมด ร่างของ 50% เป็นตัวเลขที่เมอร์ฟี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแนะนำร้อยละต่ำ: 5-30% นั่นหมายความว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เล่นเงินของตัวเองที่ควรจะเหลือสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ผิดปกติและจะดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ 2. การลงทุนน้อยกว่า 10-15% ของทุนรวมในหนึ่งตำแหน่ง นี้ช่วยให้คุณประกันกับความเสียหายที่เกิดจากเงินลงทุนทั้งหมดในการทำธุรกรรม 3. อัตราความเสี่ยงในแต่ละรายการจะต้องน้อยกว่า 5% ของกองทุนทั้งหมด การปฏิบัติตามหลักการนี้จะทำให้การสูญเสียของผู้ประกอบการในการทำธุรกรรมต่ำกว่า 5% ของทุนทั้งหมด นักวิเคราะห์บางคนแนะนำให้ลดตัวเลขนี้ 1.5-2% 4. จำนวนเงินลงควรจะน้อยกว่า 20-25% ของทุนสำหรับทุกตำแหน่งที่เปิดอยู่ในกลุ่มของตราสาร ราคาของตราสารในกลุ่มหนึ่งมักจะย้ายไปในทำนองเดียวกัน เปิดตำแหน่งที่มีขนาดใหญ่ในกลุ่มหนึ่งจะทำไม่ได้เท่าที่การกระจายความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง คุณควรทำตามกฎที่สำคัญของการลงทุนที่ดีที่สุด: เงินทุนทั้งหมดจะต้องมีความหลากหลาย จัดสรรเงินทุนของคุณเพื่อให้ทนทานต่อถ้าหนึ่งในข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ใหญ่ ด้วยการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสมการซื้อขายการสูญเสียจะถูกชดเชยเสมอโดยคนที่ทำกำไรได้ 5. ระดับของสัดส่วนการลงทุน การกระจายการลงทุนเป็นวิธีที่เชื่อถือได้เพื่อป้องกันการสูญเสียเงิน แต่ก็ยังต้องได้รับการกลั่นกรอง มันเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการกระจายความเสี่ยงและความเข้มข้น สำหรับการกระจายความเสี่ยงที่จะเชื่อถือได้ก็พอที่จะเปิดตำแหน่งใน 4-6 กลุ่มที่แตกต่างกันของเครื่องมือ การกระจายการลงทุนที่แตกต่างกันผกผันกับความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มของเครื่องมือการค้า ถ้าความสัมพันธ์เป็นลบ, การกระจายความเสี่ยงของการลงทุนที่มีความแข็งแรง 6. วางคำสั่งหยุด (หยุดขาดทุน) คำสั่งหยุดขาดทุนถูกกำหนดโดยผู้ประกอบการเพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียขนาดใหญ่ คำสั่งหยุดการขาดทุนเป็นราคาคงที่ที่ผู้ประกอบการค้าปิดตำแหน่งในกรณีที่มีความผันผวนของราคาที่ไม่พึงประสงค์ในตลาด ระดับของการหยุดการขาดทุนจะถูกกำหนดโดยการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการค้าการสูญเสียในการทำธุรกรรมในปัจจุบันและการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาด ตัวอย่าง: ผู้ประกอบการมีเงินฝากของ $ 2,000 มีการประเมินสถานการณ์ตลาดที่ผู้ประกอบการเปิดตำแหน่งยาว EURUSD คือซื้อสกุลเงินยูโรดอลลาร์ ผู้ประกอบการค้าพร้อมที่จะลงทุน 10% ของเงินฝากของเขาในการทำธุรกรรมที่มีระดับความเสี่ยงของ 3% ของผู้ประกอบการค้าเงินฝาก ได้รับระดับของ 1-100 ผู้ประกอบการค้า 0.15 ซื้อ EURUSD จำนวนมากในราคา 1.2930 ในกรณีนี้ผู้ประกอบการจะทำให้การชำระเงินลง $ 200 (10% ของเงินฝาก) ต่อไปผู้ประกอบการค้ากำหนดเพื่อหยุดการขาดทุน 3% ของ $ 2,000 เป็น $ 60 ซึ่งหมายความว่าผู้ประกอบการจะยังคงสูญเสียจนจำนวนเงินที่สูญเสียให้กับ $ 60 เมื่อสูญเสียเกิน $ 60, ผู้ประกอบการค้าปิดตำแหน่งในราคาที่ตลาด (แก้ไขการสูญเสีย) เมื่อ EURUSD ถึงระดับ 1.2890 ที่ผลการดำเนินงานของตำแหน่ง EURUSD มากคือ 0.15 - $ 60 ผู้ประกอบการค้าปิดสถานะที่ 1.2890 ดังนั้นผู้ประกอบการค้าได้ทำให้การสูญเสียของ 3% ของเงินฝาก แต่หลีกเลี่ยงการสูญเสียของเงินฝากทั้งในกรณีที่อัตราแลกเปลี่ยน EURUSD ลดลงต่ำกว่ามาก ก่อนที่จะตั้งคำสั่งหยุดการขาดทุนเป็นผู้ประกอบการอย่างถูกต้องควรประเมินการรวมกันของปัจจัยทางเทคนิคที่ปรากฏในกราฟราคาและอย่าลืมที่จะปกป้องเงินของเขา แข็งแรงการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่มีต่อไปจากระดับราคาปัจจุบันคำสั่งหยุดควรจะตั้ง ผู้ประกอบการค้าอยู่เสมอสนใจในการตั้งคำสั่งหยุดการขาดทุนใกล้เคียงกับราคาที่เป็นไปได้ที่จะลดการสูญเสียจากการทำธุรกรรมที่ล้มเหลว แต่หยุดคำสั่งตั้งเกินไปใกล้กับราคาที่สามารถป้องกันไม่ให้ได้รับประโยชน์จากตำแหน่งเพราะผลกำไรจำนวนมากจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น คีมจับทางกลับกันหยุดการสั่งซื้อตั้งอยู่ห่างไกลเกินไปจากราคามากสามารถเพิ่มจำนวนของการซื้อขายไม่ได้ประโยชน์ 7. การกำหนดอัตรากำไร สำหรับแต่ละรายการที่อาจเกิดขึ้นควรจะมีการกำหนดอัตราส่วนของกำไรและขาดทุน พวกเขาจะต้องมีความสมดุลกันหากการเคลื่อนไหวของตลาดการซื้อขายสกุลเงินออนไลน์ในทิศทางที่ไม่พึงประสงค์ โดยปกติอัตราส่วน 3 ต่อ 1 มิฉะนั้นการทำธุรกรรมควรจะปฏิเสธ ตัวอย่างเช่นถ้าผู้ประกอบการมีการเสี่ยง $ 200 แล้วผลกำไรที่มีศักยภาพของการทำธุรกรรมจะต้องเป็น $ 600 เนื่องจากมีกำไรอย่างมีนัยสำคัญสามารถเข้าถึงได้ในจำนวนที่น้อยมากของการทำธุรกรรมทุกความพยายามที่จะต้องทำเพื่อเพิ่มผลกำไร ต้องการทำเช่นนั้นมีความจำเป็นต้องรักษาตำแหน่งที่ทำกำไรได้เป็นเวลานานที่สุด แต่การสูญเสียของการทำธุรกรรมที่ลดไม่ได้ประโยชน์ไม่ควรลืม 8. เปิดหลายตำแหน่ง โดยการเปิดตำแหน่งที่ไม่กี่หนึ่งในเครื่องมือที่ผู้ประกอบการค้าการค้าและการระบุตำแหน่งแนวโน้ม วัตถุประสงค์ของตำแหน่งการค้าคือการค้าระยะสั้น พวกเขาจะถูก จำกัด โดยใกล้หยุดการสั่งซื้อซึ่งจะดำเนินการเมื่อราคาขึ้นมาถึงหยุดระดับ ตำแหน่งที่มีแนวโน้มมากขึ้นที่ห่างไกลหยุดการสั่งซื้อและอนุญาตให้อยู่ในสถานะที่จะได้รับการรักษาภายใต้ความผันผวนเล็กน้อยในราคาตลาด ด้วยตำแหน่งเหล่านี้ผู้ประกอบการสามารถบรรลุผลกำไรที่ใหญ่ที่สุด